บุกค้นบ้าน อดีตขรก.เอี่ยวออกสปก.ปลอม ตะลึงเจอหลักหมุด-เครื่องรังวัด เพียบ

‘บิ๊กเต่า’ นำเจ้าหน้าที่ ปปป. บุกค้นบ้าน อดีตขรก.เกษียณ ออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สปก.มิชอบ ตะลึงเจอหลักหมุดที่ดิน เครื่องมือวัด เต็มบ้าน เชื่อทำเป็นขบวนการ

กรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วยนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาคราช ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. หนุมานกองปราบ เจ้าหน้าที่ บก.ทล. จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สปก.โดยมิชอบ ซึ่งผู้ต้องหาเป็นอดีตข้าราชการเกษียณ สำนักงาน สปก.นครราชสีมา ในตำแหน่งนายช่างรังวัด โดยถูกจับกุมได้ในช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่จาก ปปช. ,ปปง. ,ปปป. ควบคุมตัวผู้ต้องหา มายังบ้านพักแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในชุมชนเดชอุดมสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งทางผู้ต้องหาเช่าเอาไว้สำหรับพูดคุยงาน

ซึ่งภายในบ้านพักหลังดังกล่าวนั้นพบหลักฐานหลายรายการ เช่น หลักหมุดที่ดิน สปก., เครื่องถ่ายเอกสาร, เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังพบบุคคลอื่นที่อยู่ภายในบ้านพักหลังดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวบุคคลดังกล่าวไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดฐานออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สปก.โดยมิชอบ หรือไม่

นายธนดล กล่าวว่า การทุจริตในครั้งนี้ ตนเชื่อว่าต้องทำเป็นขบวนการ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมในขบวนการด้วยอย่างแน่นอน ดังจะสังเกตเห็นว่า มีชาวบ้านมาต่อคิวรอดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ดินเป็นจำนวนมาก

ดังนั้นใครที่มีการยัดเงินใต้โต๊ะ ก็จะได้รับการอำนวยความสะดวก ไปรังวัดได้อย่างรวดเร็ว ออก สปก. 4-01 ให้ แล้วยังร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่นี่ทำให้ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ทำคนเดียวไม่ได้แน่ ดังนั้นคนที่ได้รับประโยชน์จากตรงนี้จึงรวยและมีอำนาจ เมื่อรวยและมีอำนาจก็ทำให้ข้าราชการเข้าไปร่วมขบวนการด้วย ส่งผลให้เกิดการหานอมินีมาถือครองที่ดินแทนนายทุน

ซึ่งนายทุนที่ว่านี้มีให้เห็นจริงๆ แล้วตามที่ได้ออกหมายจับวันนี้ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งตนยืนยันว่าจะต้องล้างบางขบวนการนี้ให้หมดไปจาก สปก. ใครมีเบาะแสอะไรแจ้งมาโดยตรงที่ตนเองได้เลย ทั้งนี้จากการไปตรวจยึดของกลางไว้จำนวนมากวันนี้ จะต้องถูกนำไปตรวจสอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหมุด เครื่องมือรังวัด คอมพิวเตอร์ และบุคลากรทั้งหมด หากพบความผิดอะไรจะดำเนินคดีทันที

ขณะนี้คดีทั้งหมด อยู่ที่ ปปป. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปร่วมสอบสวนในคดีด้วย ถ้ายังขาดข้อมูลหลักฐานใด ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกทุกอย่าง เพื่อให้เกิดความร่วมเร็วแก่พี่น้องประชาชนที่กำลังติดตามข่าวเรื่องนี้

ส่วนหมุดที่มีทั้งใหม่และเก่า ลักษณะมีดินเปรอะเปื้อนนั้น ตอนนี้กำลังให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากบัญชีของ สปก.นครราชสีมา ว่าแต่ละหมุดตรงกันหรือไม่ หรือปลอมแปลงขึ้นมาใหม่ ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นของจริงหรือของปลอม ก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด

เพราะถ้าเป็นของจริง การจะนำออกไปเช่นนั้น ก็จะต้องถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ของทางราชการ แต่ถ้าเป็นของปลอม ก็จะถูกดำเนินคดีปลอมแปลงเอกสารและหลักฐานของทางราชการ เพราะตัวเลขที่ปรากฏในหมุด จะระบุสถานที่ไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว

“ผมรู้สึกตกใจมาก ที่ไปตรวจสำนักงานดังกล่าวแล้วพบอุปกรณ์ทางราชการต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งที่บุคคลคนนี้เป็นคนที่เกษียณราชการไปแล้ว ไม่น่าจะมีอุปกรณ์ของทางราชการจำนวนมากไปอยู่ที่บ้านได้ ซึ่งไม่ควรที่จะมีในประเทศไทย จึงเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้ปัดกวาดทำความสะอาดองค์กร ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์

ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ถ้าหากอยากจะขอความเป็นธรรม ก็สามารถทำได้ แต่การที่จะออกหมายจับได้นั้น พยานและหลักฐานต่างๆ ก็ต้องครบถ้วนมาก่อนแล้ว ถ้าไม่ครบถ้วนศาลก็คงจะไม่ออกหมายจับให้อย่างแน่นอน

ยิ่งครั้งนี้เป็นการออกหมายจับข้าราชการระดับสูงด้วย ศาลต้องพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุดแล้ว ดังนั้นจึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้ง 4 คน เรียบร้อยแล้ววันนี้ โดยจับที่กรุงเทพฯ 2 ราย ที่ จ.อุดรธานี 1 ราย และที่ จ.นครราชสีมา 1 ราย” นายธนดล กล่าว