(12 มิ.ย.) พันตำรวจตรี ปพนเอก บุญอนันต์ สารวัตรปราบปราม สภ.พระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีแม่ลูกมานั่งขอทานในตลาดนัดทางเข้าตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ถนนเพชรหึงษ์ หมู่ที่ 10 ตำบลบางยอ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จึงได้เข้าตรวจสอบ พบว่ามีหญิงพิการตาบอดกับ ด.ญ.วัย 7 ขวบ นั่งขอทานอยู่กลางตลาดนัด จึงได้เข้าตรวจสอบพบว่าเป็นคนสัญชาติกัมพูชา ชื่อนาง ซอกลี อายุ 46 ปี (แม่) พิการตาบอด 2 ข้าง และ ด.ญ อายุ 7 ปี ตรวจสอบไม่มีเอกสารหลักฐานในการเข้าราชอาณาจักรหรือเข้าเมือง มีเพียงบัตรประชาชนชาวกัมพูชา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.พระประแดง และตรวจสอบในกระเป๋าสะพายผ้าสีน้ำตาล มีของใช้ส่วนตัว และพบเงินที่เป็นแบงก์และเหรียญ จำนวนเกือบ 4,000 บาท พร้อมทั้งแก้วพลาสติกใส ในแก้วมีเงินอยู่ประมาณ 160 บาท ขณะนั่งขอทานอยู่
จากการสอบถามข้อมูลจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดทราบว่านาง ซอกลี มาพร้อมกับ ด.ญ อายุ 7 ปี ที่อ้างว่าเป็นแม่ลูกกัน มานั่งขอทานที่ตลาดนัดตั้งแต่เวลา 16.30 น โดยชาวบ้านที่ไปเดินตลาดพบเห็นภาพ น่าสงสารบางคนก็ช่วยทำบุญ แต่ก็ไม่รู้ว่าแม่ลูกคู่นี้เป็นคนไทยหรือเปล่าหรือเป็นต่างด้าว และเป็นแม่ลูกกันจริงหรือไม่ เพราะกลัวจะเป็นแก๊งขอทาน จึงมีชาวบ้านได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ เพราะมานั่งขอทานที่นี่ มาได้ประมาณ 2-3 ครั้งแล้ว แต่ทั้งคู่พูดไทยชัดมาก ชาวบ้านก็นึกว่าเป็นคนไทย เพิ่งมารู้วันนี้ว่าเป็นชาวกัมพูชา
ได้สอบถามนาง ซอกลี ว่าเงินที่อยู่ในกระเป๋าเป็นเงินได้มาจากการขอทานใช่หรือไม่ นาง ซอกลี กล่าวว่า ใช่ เพราะช่วงเช้า และช่วงบ่าย ก่อนที่จะมาที่ตลาดนัดแห่งนี้ ได้ไปที่ตลาดแถวแสมดำ กรุงเทพมหานคร มาก่อน
ขณะที่ตำรวจจะควบคุมตัวจะไปที่ สภ.พระประแดง แม่ลูกคู่นี้ได้พยายามร้องขอเจ้าหน้าที่ไม่ให้จับพวกตน และร้องเสียงดัง ทำให้ชาวบ้านมายืนมุงดูกัน เพื่อจะทำให้ชาวบ้านหรือแม่ค้ามองว่าน่าสงสาร เพื่อกดดันตำรวจไม่ให้จับสองแม่ลูกนี้ จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนหน้านี้ทางตำรวจ สภ. พระประแดง ก็เคยจับกุมแม่ลูกขอทานมาแล้ว 2-3 คู่ สอบไปสอบมา พบว่าน่าจะเป็นแก๊งเดียวกัน เพราะที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ราษฎร์บูรณะเหมือนกัน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการแจ้งข้อหานาง ซอกลี อายุ 46 ปี ชาวกัมพูชา ในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และผิด พรบ.ขอทาน โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน ด.ญ. อายุ 7 ปี ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสมุทรปราการ ได้มารับและนำตัว ด.ญ. อายุ 7 ปี ไปไว้ในความคุ้มครองดูแลชั่วคราว จนกว่านาง ซอกลี ดำเนินคดีเสร็จ คาดว่าจะถูกผลักดันกับประเทศทั้งแม่ทั้งลูก
จากการสอบถามนาง ซอกลี เล่าว่า ตนกับลูกสาวได้เข้ามาในประเทศไทย แล้วพักอาศัยอยู่ภายในซอย สุขสวัสดิ์ 38 ได้ประมาณ 2 เดือน เพื่อมาทำอาชีพขอทาน เพราะตัวเองตาบอด เลยต้องพาลูกสาววัยมาด้วย เพื่อเป็นตาให้ตน ขณะเดินทาง จะไปขอทานอยู่แถวพื้นแสมดำ พื้นที่พระประแดง พื้นที่ราษฎร์บูรณะ และพื้นที่ทุ่งครุ แล้วจะกลับห้องพักประมาณ 2-3 ทุ่มเป็นแบบนี้ทุกวัน ได้เงินวันหนึ่งประมาณไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท จนมาวันนี้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุม และได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีชาวกัมพูชาขอทานยังมีอีกหลายคน และพักอาศัยอยู่ที่เดียวกับตน ทำอาชีพแบบนี้เหมือนกัน ประมาณ 20-30 คน
ส่วนทางนาย รณชัย อายุ 33 ปี พ่อค้าขายขนมหวานในตลาด เล่าว่า ตนเห็นสองแม่ลูกมานั่งขอทานที่นี่ได้ประมาณ 2-3 ครั้งแล้ว จะมาช่วงเวลา 16.30 น. แล้วจะนั่งขอทานไปถึงประมาณ 20.00 น. ตนเห็นก็สงสาร แต่ตนก็สงสัย ว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างด้าวกันแน่ แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะได้ยินแม่ลูกคู่นี้คุยกันภาษาไทยชัดมาก จนมาวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ตนถึงได้ทราบว่าเป็นชาวกัมพูชา และได้ยินเจ้าหน้าที่สอบถามถึงรู้ว่า พวกนี้น่าจะเป็นแก๊งขอทานที่ตระเวนขอทานตามตลาดนัด
แท็กที่เกี่ยวข้อง กัมพูชา ,แก๊งขอทานต่างด้าว ,สองแม่ลูก ,ผู้พิการทางสายตา