รองผู้ว่าฯกทม. ลั่นเจอผิดฟันไม่เลี้ยง หนุน สตง. สอบจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย

หลังจากที่นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์เฟสบุ๊กระบุว่า กทม. จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย แพงกว่าราคาตลาด สูงเกือบ 10 เท่าลู่วิ่งไฟฟ้า ตัวละ 759,000จักรยานตัวละ 484,000] ขอบคุณชมรมSTRONG ที่ออกมาเปิดโปงเมื่อวานครับ ใครสนใจ เข้าไปอ่านได้ https://www.facebook.com/share/p/FV3Rz1fE2i4X62WZ/?

จริงๆเรื่องนี้ผมตามส่องมาตั้งแต่เมื่อต้นปี โดยได้ส่งหนังสือลงวันที่ 19/1/67 ให้กทม.ชี้แจงแล้ว 1 โครงการ (โครงการปี 65 สมัยผู้ว่าอัศวิน) ซึ่งพบว่ารายการที่กทม.ซื้อนั้น แพงกว่าราคาตลาด (ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน สเปคเดียวกัน) โดยเฉลี่ยถึง 4เท่า เลยขุดเพิ่มอีกหลายโครง

และล่าสุดวันที่ 3/5/67 ผมให้ทาง กมธ.ติดตามงบประมาณ ส่งหนังสือตรงไปยังผู้ว่า กทม.เพื่อให้ชี้แจง โครงการซื้อครุภัณฑ์ 10โครงการ ช่วงปี 65-67 โดยเป็นโครงการซื้อเครื่องออกกำลังกายรวม 9 โครงการ รวมมูลค่า 74 ล้าน

เพราะต้องสงสัยว่าอาจมีการทุจริต เนื่องจากราคากลางที่กทม.ใช้นั้น มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจนน่ากลัว (แพงกว่ายุคแรกๆ 3เท่า จาก 254,000>> 759,000) ทำให้ราคาของที่กทม.จัดซื้อสูงกว่าราคาตลาด 5-10เท่า โดยปัจจุบัน ทางกทม.ยังไม่มีการส่งหนังสือชี้แจงกลับมายัง กมธ.ครับ

เพิ่มเติมคือ โครงการซื้อเครื่องออกกำลังกาย ช่วงปี 2562-2567 มีไม่น้อยกว่า 110 ล้านบาท เป็นของสมัยผู้ว่าอัศวินอย่างน้อยๆ 25ล้าน ส่วนผู้ว่าชัชชาติอีก 87ล้านบาท

โดยสมัยผู้ว่าอัศวิน (2559-2565) ผมจะมีข้อมูลเฉพาะตั้งแต่ปี 2562-2565 โดยมีการจัดซื้อราคาลู่วิ่งด้วยราคาตัวละ 254,000 (ปี 62) แล้วมีการปรับราคากลางขึ้นมาเป็น 500,000 (ปี 63) มีการปรับลงมาตัวละ 334,000 (ต้นปี 65)

พอมายุคผู้ว่าชัชชาติ (2565-2567) ก็ปรับราคาขึ้นมาเป็น ตัวละ 518,000 (ปี 65 ศูนย์มิตรไมตรี, ศูนย์เยาวชนจตุจักร และศูนย์เยาวชนเตชะวณิช) และตั้งแต่ปี 66 ราคาได้กลางกระโดดไปที่ ตัวละ 759,000 บาท โดยมีหลายโครงการที่ใช้ลู่วิ่งราคา 759,000 บาท ทั้งที่

– ศูนย์มิตรไมตรี

– ศูนย์วัดดอกไม้

– ศูนย์วารีภิรมย์

– ศูนย์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา

ที่สำคัญในมีการล็อคผลงาน ทำให้ช่วงหลังๆ คนเสนอราคาแข่งกัน จะเป็นหน้าเดิมๆ 3 บริษัท

ปล. นอกจากรายชื่อศูนย์ที่แจ้งข้างบนไป ศูนย์อื่นๆที่คาดว่ามีได้รับเครื่องออกกำลังกาย หลายรายการ ที่มีการจัดซื้อด้วยราคาสูงเกินราคาตลาด 5-10เท่า ตั้งแต่ปี 62-67 จะมีที่

– ศูนย์เยาวชนดอนเมือง

– ศูนย์เยาวชนหนองจอก

– ศูนย์เยาวชนบ่อนไก่

– ศูนย์เยาวชนลุมพินี

– ศูนย์เยาวชนคลองสามวา

– ศูนย์เยาวชนทวีวัฒนา

– ศูนย์เยาวชนเกียรติกาย

– ศูนย์เยาวชนชัยพฤกษมาลา

– ศูนย์เยาวชนอัมพวา

ราคากลางในภาพที่แนบไว้ แค่เฉพาะของปี 66-67 ก็ชัดเจนแล้ว ที่แปลกคือ คณะกรรมการจัดทำราคากลาง ผู้บริหารกทม. สำนักงบ กทม. และสภา กทม. ไม่เอะใจซักคน ทั้งที่ของแบบนี้มันใช้ sense ก็รู้ว่าแพงเกินเหตุ ไม่ต้องใช้สมองเลย แต่ปล่อยมาหลายโครงติดๆกัน เรื่องนี้ ปปช. สตง. และผู้ตรวจการแผ่นดิน เตรียมเข้า กทม. ครับ

ล่าสุด นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ออกมาเปิดเผยว่า  กรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบโครงการประกวดราคาซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 11 รายการ ของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ และศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) นั้น กทม. ได้ให้ความร่วมมือกับ สตง. อย่างเต็มที่ในการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใส

โดยขณะนี้ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงในส่วนการจัดซื้อครุภัณฑ์ฯ ของศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ส่งให้ สตง. เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลและจัดเตรียมเอกสารในส่วนของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศส่งให้เพิ่มเติมต่อไป

รวมถึงศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร (ศปท.กทม.) ได้นำเรื่องกรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการประกวดราคาซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 11 รายการ ของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ และศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการที่ผู้ว่าได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน หากพบว่ามีมูลการทุจริตจะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) และหากผิดวินัยจะส่งทางปลัด กทม. ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมตรวจสอบได้ด้วยตนเองผ่าน actai.co

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครจะร่วมดำเนินการกับ สตง. และภาคีต่าง ๆ ตรวจสอบโครงการอื่น ๆ ด้วยความละเอียด รอบคอบและโปร่งใสต่อไป

ด้านนายสมบูรณ์ หอมนาน รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า  กทม. ให้ความสำคัญในการดำเนินการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการ e-bidding ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ทุกประการ ส่วนที่มาของราคากลางนั้น จะต้องตรวจสอบว่าได้ดำเนินการสืบราคาจากท้องตลาด เป็นไปตามที่ระเบียบและหนังสือสั่งการกำหนดหรือไม่