รวบ “จักรกรี เชียงใหม่” หมอดูรับสะเดาะเคราะห์หลอกเงิน อ้างสื่อสารกับองค์เทพ ผู้เสียหายนับร้อย

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์. รรท.ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก

วันที่ 18 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 09.00 นพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ธีวร์ราธิป ชูดวง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, ร.ต.อ.พีระเกียรติ ศิริฤทัยวัฒนา รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ , ร.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ สนิทไทย , ส.ต.ท.นัทธพงศ์ ซ้ายสุข ผบ.หมู่.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ สืบนครบาล ได้รวบตัว นายสุวัฒน์ชัย อายุ 37 ปี หมอดูที่ใช้ฉายาว่า “จักรกรี เชียงใหม่” ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 152/2567 ลงวันที่ 21 มี.ค.67 ข้อหา “ฉ้อโกง และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” จับกุมได้ที่ บริเวณ ร้านโกเด้นเพลส ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
.

ตรวจสอบในฐานระบบ ยังพบว่ามีหมายจับติดตัวอีก 4 หมาย ดังนี้

1. หมายจับศาลแขวงนครราชสีมา ที่ 24/2567 ลงวันที่ 1 ม.ค.67 ข้อหา “ฉ้อโกง การเผยแพร่ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตาม ม. 14 วรรค 1 ที่มิได้กระทำความผิดต่อประชาชนแต่เป็นการกระทำความผิดต่อบุคคล”

2. หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 206/2566 ลงวันที่ 3 มี.ค.66 ข้อหา “ตัวการในข้อหาฉ้อโกง”

3. หมายจับศาลสมุทรปราการ ที่ 141/2566 ลงวันที่ 28 ก.พ.66 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ฉ้อโกง กระทำด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ในระหว่างส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นไม่ได้มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อบุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้”

4. หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ 417/2565 ลงวันที่ 5 ก.ย.2565 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง”

ผู้ต้องหาให้การรับว่าได้กระทำความผิดจริงโดยหลอกผู้เสียหายเป็นเวลา 2 ปี มีผู้เสียหายที่หลงเชื่อ หลักร้อยราย ความเสียหายหลักร้อยถึงหลักแสนแล้วแต่กำลังทรัพย์ของผู้เสียหาย โดย ผู้ต้องหาอาศัยช่องทางโซเชียลเฟซบุ๊กรับดูดวง เมื่อผู้เสียหายสนใจดูก็จะออกกลอุบายว่า ผู้เสียหายดวงไม่ดีต้องทำการสะเดาะเคราะห์กรรมมีพิธีพราหมณ์ และอ้างว่าสามารถสื่อสารกับองค์เทพบนสวรรค์ได้และจะทำพิธีเพิกบุญกรรมแก้กรรม โดยเริ่มจากการดูในราคา 199 บาท

จากนั้นจะมีพิธีหลายขั้นตอน หากต้องการดวงดีให้ผู้เสียหายโอนเงินมาให้ เพื่อประกอบพิธี เริ่มจากกลักร้อย เพิ่มเป็นหลักพัน หลักหมื่น และหลักแสน จากนั้นผู้เสียหายก็ติดต่อบ่ายเบี่ยงและติดต่อยาก เมื่อผู้เสียหายทวงถามบ่อย ๆ ก็ติดต่อไม่ได้เลย จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช มีนโยบายให้สืบสวนติดตามคนร้ายที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผ่านการหลอกลวงซึ่งมีหลายรูปแบบ อาศัยความเชื่องมงาย โปรดอย่าได้หลงเชื่อ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ