เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.จักราวุธ กลางคาร สารวัตรสอบสวน สภ.ห้วยยาง ได้รับแจ้งมีแม่ลูกชาวเมียนมาเสียชีวิตในบ้านเช่า หมู่ 4 บ้านห้วยมะปราง ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบศพ นางคิน ไว ลิง อายุ 38 ปี ชาวเมียนมา ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนแล้ว นอนหงายอยู่บนที่นอน พบมีบาดแผลโดนตีด้วยของแข็งที่ใบหน้า และศีรษะ ใกล้กันพบลูกสาว อายุ 7 ปี ถูกทุบด้วยของแข็งที่ศีรษะเช่นเดียวกันกับผู้เป็นแม่ จากการชันสูตรเบื้องต้นคาดว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 วัน
โดยก่อนที่จะพบศพนั้น มีอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ได้ว่าจ้าง นายซอ วิน อู อายุ 40 ปี ชาวเมียนมา สามีของผู้เสียชีวิต ไปตัดต้นยางพาราที่หมู่ 10 บ้านหัวเขา ต.ห้วยยาง แต่เห็นว่าไม่ไปทำงาน และติดต่อไม่ได้ จึงให้คนไปตามที่บ้านพัก กระทั่งเห็นว่ามีเมีย และลูกของนายซอ เสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน
ต่อมา นายเกษม พิมพ์สะอาด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านหัวเขา ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า พบผู้เสียชีวิตเป็นชาวเมียนมา ในสวนยางพาราบนภูเขา ห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ประมาณ 500 เมตร จึงไปตรวจสอบ พบว่าเป็นชายชาวเมียนมาถูกของมีคมฟันที่คอ และศีรษะขาด นอนทับเลื่อยยนต์ ในขณะที่กำลังตัดต้นไม้อยู่ จากนั้นได้แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทราบภายหลัง ผู้เสียชีวิตคือ นายซอ
ทางด้าน นายเกษม เผยว่า หลังจากพบภรรยาและลูกเสียชีวิตช่วงเช้า ช่วงบ่ายตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า มีผู้เสียชีวิตในสวนยางพาราบนภูเขา จึงไปตรวจสอบในสวนยางที่นายซอรับจ้างตัดไม้ จึงพบว่ามีความเชื่อมโยงกับศพสองแม่ลูกในบ้านเช่าที่หมู่ 4 สำหรับสาเหตุที่มีการสังหารอย่างโหดเหี้ยม น่าจะมาจากปัญหาของชาวเมียนมาสองรายที่นายซอชักชวนมาทำงานด้วย หลังจากอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ซึ่งเป็นนายจ้างจ่ายเงินค่าแรงเป็นเงินสดให้ผู้เสียชีวิตแล้ว
คาดว่าเพื่อนผู้เสียชีวิตทั้งสองรายได้ลงมือสังหารโหดเพื่อชิงเอาค่าแรงประมาณ 4 – 5 หมื่นบาท แล้วหลบหนีไป โดยลงมือจัดการนายซอ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 จากนั้นคนร้ายจึงขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตไปปิดปากเมียและลูกของนายซอ ซึ่งกรณีความรุนแรงแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหมู่บ้านแห่งนี้
ขณะที่น้องชายของผู้เสียชีวิต อายุ 32 ปี เล่าว่า ตน พี่ชาย และพี่สะใภ้ เป็นชาว อ.ตะนาวศรี จ.มะริด เดินทางมาทำงานในไทยนานกว่า 10 ปี มีบัตรถูกต้องตามกฎหมาย คาดว่าพี่ชาย พี่สะใภ้ และหลานสาว ถูกเพื่อนชาติเดียวกันสองรายปิดปาก หลังจากมีการชิงทรัพย์ค่าแรง ชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนักหลายบาทจากพี่สะใภ้ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ซึ่งมีพยานยืนยันว่า พี่สะใภ้มีปากเสียงรุนแรงกับเพื่อนสามีสองราย ก่อนเสียชีวิตพร้อมบุตรสาว
ทั้งนี้ ได้มีรายงานว่า หลังจากที่ชาวเมียนมา 2 รายลงมือก่อเหตุสังหารยกครัวแล้ว ได้ขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตหลบหนีไป และคาดว่าจะหนีกลับเมียนมาผ่านช่องทางธรรมชาติแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี