นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า จากการส่งชุดเหยียวดงเข้าไปตรวจสอบลูกสิงโต ที่เจ้าของอ้างว่าเป็นเสือโคร่ง ถูกนำมาเพ้นท์สีนั้น เมื่อดูรูปลักษณ์แล้ว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานแล้วว่า ไม่น่าจะใช่ตัวเดียวกันกับที่เป็นข่าว และเมื่อตรวจสอบชิปที่ตัวสัตว์ พบว่าไม่มีข้อมูลหลักฐานอะไรของทางราชการเลย ดังนั้นจึงต้องตรวจยึดและดำเนินคดี ขั้นตอนต่อไปจะต้องตามหาเสือโคร่งตัวที่เป็นข่าว ดังนั้นจะต้องประสานตำรวจบางปะกงและกู้ภัยที่จับเสือโคร่งมาได้ในช่วงแรก มาสอบถามข้อเท็จจริง ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร มีการส่งมอบอย่างไร และทำไมเสือโคร่งถึงกลายเป็นสิงโต
เบื้องต้นจากการตรวจสอบสถานที่ของทางฟาร์ม พบว่าได้ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่สัตว์ที่ครอบครอง ถูกต้องทั้งหมดหรือไม่นั้น จะต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง ล่าสุดได้สั่งการเจ้าหน้าที่ให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบสัตว์ในความดูแลทั้งหมดแล้ว ถ้าพบสัตว์ที่ไม่ถูกต้องจะทำการยึดทั้งหมด และดำเนินคดี
กรณีอ้างว่าเป็นไลเกอร์ แต่ไทยยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองนั้น ล่าสุดได้สั่งการให้ไปหาแนวทางตามข้อกฎหมายแล้ว อาจจะเป็นการระบุชนิดสัตว์เพิ่ม เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามข้อกฎหมายได้ เพราะต้องควบคุมทั้งการนำเข้า ควบคุมการส่งออก ควบคุมการครอบครอง แต่ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นก่อนทุกฝ่ายก่อน ว่าความจริงแล้วควรมีจำนวนเท่าไรถึงจะเหมาะสม