คดีประหลาด! พนง.ซูเปอร์มาร์เกต หายตัวปริศนา ไม่มีใครรู้ แม้แต่คนในครอบครัว จนผ่านไป 10 ปี เผยสภาพสุดช็อก น่าสงสัยมาก

กลายเป็นเรื่องราวชปริศนาประหลาดชวนขนลุกและน่าสงสัยเป็นอย่างมาก หลังจากเว็บไซต์ต่างประเทศ Ladbible ได้เผยว่า พนักงานร้านซูเปอร์มาร์เกตรายหนึ่งเกิดหายตัวไปอย่างลึกลับ หลังจากทำความสะอาดภายในร้าน จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานถึง 10 ปี ปริศนานี้ถึงได้ถูกคลี่คลาย และเผยความจริงสุดช็อกที่ว่า แท้จริงแล้วพนักงานรายนี้ไม่ได้ไปไหน แต่เขาอยู่ที่เดิมมาตลอด

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ซูเปอร์มาร์เกต No Frills ในเมืองเคาน์ซิลบลัฟส์ รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากซูเปอร์มาร์เกตแห่งนี้ปิดทำการไปนาน 3 ปี ในปี 2562 มีทีมพนักงานเข้าไปเก็บกวาดพื้นที่ รื้อชั้นวางสินค้าและขนย้ายตู้แช่ออกมา แต่ปรากฏว่าพวกเขาต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบว่ามีศพของมนุษย์ที่แห้งกลายเป็นซากติดอยู่ที่ด้านหลังตู้แช่ในร้าน

จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจดีเอ็นดี เพื่อยืนยันตัวตนของผู้เวียชีวิตพบว่า ศพดังกล่าว คือ นายแลร์รี เอลี มูริลโล-มอนกาดา วัย 25 ปี อดีตพนักงานของร้านซูเปอร์มาร์เกตดังกล่าว ซึ่งมีรายงานจากทางครอบครัวว่า เขาหายตัวไปตั้งแต่ปี 2552 หรือเมื่อ 10 ปีก่อนหน้านั้น นั่นหมายความว่า ศพของเขาติดอยู่ในร้านที่เปิดทำการตลอด 7 ปี และขณะที่ปิดทำการไปอีก 3 ปี

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เชื่อว่า การเสียชีวิตดังกล่าวมาจากอุบัติเหตุ ไม่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม โดยสันนิษฐานว่า เขาน่าจะตกลงไปในช่องว่างแคบ ๆ ระหว่างตู้แช่และผนัง ในลักษณะหัวทิ่มลง ทำให้ร่างกายติดอยู่ตรงนั้นจนไม่สามารถขยับตัวได้ และเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิตในที่สุด

ขณะที่ทางครอบครัวของแลร์รีไม่ล่วงรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เข้าใจว่าเขาหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2552 จนกระทั่ง 10 ปีต่อมา เมื่อพบว่าเขากลายเป็นศพ ทุกคนต่างรู้สึกเศร้าและสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่คาดคิดว่าแลร์รีจะอยู่ที่ด้านหลังตู้แช่เช่นนั้นมาตลอดนานนับทศวรรษ และในขณะเดียวก็รู้สึกตกใจมาก เหตุที่ว่าทำไมถึงไม่มีใครไปพบเขาเร็วกว่านี้

ทั้งนี้ หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปแล้วนั้น ก็กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างกว้าง หลายคนต่างรู้สึกตกตะลึงและสยดสยองกับคดีนี้ และมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย มีการคาดเดาไปต่าง ๆ นานาว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ทำไมถึงไม่มีใครได้ยิน หรือตอนเกิดเหตุจะเป็นตอนที่ไม่มีคนอยู่ในร้าน

ท้ายที่สุด แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับแลร์รีจะไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่ทางตำรวจได้หยิบยกทฤษฎีหนึ่งขึ้นมา นั่นก็คือ ตู้แช่ที่จุดเกิดเหตุมีความสูงมากถึง 12 ฟุต หรือราว 3.6 เมตร รวมทั้งยังมีเสียงดังของตู้แช่ตลอดเวลา ดังนั้นเสียงร้องหรือความพยายามที่จะขอความช่วยเหลือของเขาจึงไม่เป็นผล

ต่อมา มีพนักงานร้านค้าหลายคนที่ทำงานในลักษณะเดียวกัน ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีนี้ โดยพยายามคาดการณ์สาเหตุที่ใช้เวลานานถึงมีการพบชะตากรรมอันสุดเศร้าของอดีตพนักงานรายนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่ถกเถียงกันว่า ทำไมถึงไม่มีใครได้กลิ่นเหม็นเน่าของศพ นั่นก็เพราะว่า ภายในซูเปอร์มาร์เกตมักจะมีกลิ่นฉุนปนกลิ่นคาวของอาหารสดอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ไม่มีใครรู้สึกแปลก ยิ่งห้องเก็บสินค้าด้านหลัง ล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์อยู่ตลอดเวลา

แต่จากคำตอบดังกล่าว ผู้คนอีกส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีของทางพนักงาน มีเจ้าหน้าที่ชันสูตรได้อธิบายว่า ศพมนุษย์จะมีกลิ่นสาบที่รุนแรงมาก เรียกได้ว่าเป็น กลิ่นที่เลวร้ายที่สุดในโลก จึงยังเป็นเรื่องที่ค้างคาใจว่า ทั้งลูกค้าและพนักงานในร้านต่างเพิกเฉยกันไปได้อย่างไร ซึ่งคำถามนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป

ข้อมูล