สาวมีลูกยาก ให้เพื่อนสนิทอุ้มบุญให้ แต่พอลูกออกมาแล้วเอ๊ะ ตัดสินใจตรวจ DNA ยิ่งช็อก พีคกว่าคือได้มาโดยธรรมชาติ
สาวๆ บางคนอาจจะเกิดภาวะมีลูกยาก ทำให้ตัดสินใจมีลูกด้วยวิธีการอุ้มบุญ หลายคนโชคดีได้ลูกเป็นของตนเอง แต่กับหญิงสาวรายนี้ไม่ใช่แบบนั้น ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นกับ หญิงรายหนึ่งในต่างประเทศ เธอได้แชร์ประสบการณ์ชีวิตครั้งใหญ่ผ่านทางชุมชนออนไลน Reddit
เธอเผยว่า ไม่คิดว่าชีวิตของเธอจะมาถึงจุดนี้ได้ เพราะหลังจากที่คบกับสามีมาเกือบ 10 ปี และแต่งงานกันมา 7 ปี เธออยากมีลูกมาตลอด แต่เธอป่วยด้วยโรคบางอย่าง ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจใช้วิธีการอุ้มบุญ หรือตั้งครรภ์แทน
โดยคนที่เธอขอให้มาเป็นแม่อุ้มบุญก็คือเพื่อนคนหนึ่งที่เธอไว้ใจ จากนั้นก็เริ่มต้นกระบวนการทําเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF โดยการปฏิสนธินอกร่างกาย 2 ครั้งแรกล้มเหลว กระทั่งครั้งที่ 3 เธอก็ได้ทราบข่าวดีว่าประสบผลสำเร็จ และเธอได้ลูกชายในที่สุด เธอรู้สึกดีใจมากเมื่อความหวังของเธอกลายเป็นจริง
แต่ในระหว่างที่หญิงรายนี้มีความสุขกับชีวิตครอบครัวที่ดูเหมือนว่าจะสมบูรณ์ ตลอดระยะเวลา 2 ปี เธอไม่ได้สังเกตเลยว่ามีสัญญาณความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น เนื่องจากเธอตั้งใจทำงานมาก นอกจากงานประจำแล้วก็ยังมีพาร์ทไทม์ 2 งาน บางครั้งเมื่อเธอกลับมาบ้านตอนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เธอก็จะเห็นเพื่อนของเธอที่อุ้มบุญให้และเพื่อนคนอื่นๆ มาแฮงก์เอาต์กันที่บ้าน และสามีของเธอก็อยู่ร่วมด้วย
ในตอนแรกเธอก็คิดว่าไม่มีอะไรมาก เพราะคิดว่าพวกเขามีมิตรสัมพันธ์ที่ดี จนกระทั่งวันหนึ่ง จุดเริ่มต้นของความลับก็ค่อยๆ ถูกเปิดเผย เมื่อเธอพบว่าดวงตาของลูกชายมีสีน้ำตาล ในขณะที่เธอและสามีตาสีฟ้าทั้งคู่ เธอจึงพาลูกไปตรวจที่โรงพยาบาล ก่อนที่ผลจะออกมาอย่างน่าตกใจว่า ลูกชายไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเธอเลย
ตอนนั้น เธอคิดว่าเกิดจากความผิดพลาดของทางคลินิกที่ทำเด็กหลอดแก้วให้กับเธอ และมีการฝังตัวอ่อนผิด เธอจึงได้ไปปรึกษาทนายความเพื่อเตรียมฟ้องร้อง รวมทั้งดำเนินการตรวจ DNA ทั้งครอบครัว ซึ่งผลยืนยันว่า เธอไม่ใช่แม่โดยสายเลือดของลูกชาย แต่ปรากฏว่า สามีของเธอเป็นพ่อโดยสายเลือดกับเด็ก
หลังจากทราบผล หญิงรายนี้ทั้งโกรธและสับสนมาก ไม่รู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เมื่อไปเค้นกับสามี ในที่สุดเขาก็ยอมรับสารภาพว่า เขาแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนของเธอคนนั้น นั่นหมายความว่าลูกชายที่เธอเข้าใจว่าเกิดจากการกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลับกลายเป็นวิธีการทางธรรมชาติ และคนที่เธอไว้ใจหักหลังเธอ
“กลายเป็นว่าไม่มีอะไรเป็นของฉันเลย ทั้งลูกชาย และสามี หรือแม้กระทั่งเพื่อน”
หญิงรายนี้เผยว่า เธอรู้สึกแตกสลายจากการถูกหักหลังซ้ำซ้อน จนตัดสินใจออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วยตัวคนเดียว ก่อนจะไปพักอาศัยที่โรงแรมนานกว่าสัปดาห์ หลังจากตั้งสติได้เธอก็ตัดสินใจที่จะดำเนินการฟ้องหย่า รวมทั้งตัดขาดความสัมพันธ์กับเพื่อนคนนั้น แม้ว่าทั้งสองจะยอมรับผิดและขอโทษเธอ แต่เธอไม่สามารถให้อภัยกับเรื่องนี้ได้
อย่างไรก็ตาม เธอคิดว่าไปหาคู่ครองในอนาคตที่ไว้ใจได้ และรับเด็กมาเลี้ยงยังดีเสียกว่า เพราะจริงๆ แล้วปัญหาไม่ใช่เรื่องที่เด็กไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่เป็นความไม่ซื่อสัตย์และการหลอกลวงหักหลังที่ทำให้เธอรับไม่ได้และเธอก็มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะหย่าขาด
ข้อมูลจาก CTWANT