เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 ส.ค.67 ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีอดีตสามียิงภรรยาเสียชีวิต ตัวผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้าน เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านทับจาก ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง, พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว, พ.ต.ท.เชษฐ์ เพชรชู สว.สส.สภ.ย่านตาขาว, แพทย์เวร รพ.ย่านตาขาว, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง, ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างภักดีย่านตาขาว
ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ประตูรั้วประตูบ้านถูกล็อกด้วยแม่กุญแจ เจ้าหน้าที่มองลอดเข้าไปเห็น ร.ต.ท.สมโชค (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 69 ปี อดีตตำรวจเกษียณอายุราชการ ยืนถืออาวุธปืนวนเวียนอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงพยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อให้วางอาวุธปืนลงและออกมามอบตัว แต่ผู้ก่อเหตุได้ตะโกนออกมาว่าให้ออกไป ผมพกกระสุนมา 2 แม็กกาซีน ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ถอยร่นออกมา พร้อมกับประสานชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (หนุมานตรัง) เข้ามาร่วมปฏิบัติการ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พังประตูรั้วบ้านเข้าไป เมื่อเปิดประตูหน้าบ้านเข้าไปถึง บนแคร่ไม้สัก หลังประตูหน้าบ้านพบร่าง ร.ต.ท.สมโชค ใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่ขมับขวา 1 นัด นอนเสียชีวิตบนแคร่ไม้ จากการตรวจสอบบริเวณหน้าประตูห้องนอนพบรอยคราบเลือดหยดเป็นทางยาว ภายในห้องนอนพบศพ นางสมคิด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาผู้ก่อเหตุ นั่งบนพื้นกระเบื้อง หลังพิงเตียงนอน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนกระบอกเดียวกันเข้าที่ร่างกายรวมกว่า 16 นัด บริเวณต้นแขนซ้ายถูกฟันด้วยของมีคม เป็นบาดแผลฉีกขาดประมาณ 1 คืบ รวมทั้งกระดูกแขนซ้ายท่อนบนหัก
จากการตวรจสอบบริเวณใกล้เคียงกับศพฝ่ายหญิง พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 16 ปลอก และกระสุนปืนที่ยังไม่ได้ใช้งานตกอยู่อีก 1 นัด มีดอีโต้ 1 เล่ม ส่วนอาวุธปืนที่อยู่ติดกับตัวฝ่ายชายพบว่ายังมีกระสุนคงค้างอยู่ในรังเพลิง 1 นัด พบมีแม็กกาซีนเปล่า 2 อัน
นอกจากนี้ภายในบ้านพักยังพบว่าหน้าต่างกระจกประตูหน้าบ้านแตก 1 บาน ลูกบิดประตูห้องนอนแตก ห่างออกไปจากบ้านหลังเกิดเหตุประมาณ 20-30 เมตร ซึ่งเป็นหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน พบรถจยย.ซูซูกิ สีแดง-ดำ ทะเบียน ขยว 256 ตรัง ซึ่งเป็นของฝ่ายชายจอดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานไว้ตรวจสอบ
ขณะที่ พ.ต.อ.พูนศักดิ์ กล่าวว่า หลังเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุก็ตะโกนเรียกผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ยอมตอบ ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนจึงใช้โทรโข่งเจรจาเรียก ก็ไม่มีเสียงตอบรับ โทรศัพท์ก็ไม่รับสาย สักพักตำรวจในสังกัดได้ยินเสียงตะโกนกลับมาว่า “อย่าเข้ามาผมพกกระสุนมา 2 แม็กกาซีน” ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด พอมองลอดผ่านกระจกก็เห็นผู้ก่อเหตุนั่งนิ่งอยู่ จึงตัดสินใจรอชุดปฎิบัติการพิเศษศรีตรังเข้ามาเคลียร์พื้นที่ ซึ่งระยะเวลาที่ก่อเหตุยิงอดีตภรรยากับยิงตัวเองเสียชีวิตน่าจะห่างกันประมาณ 15-20 นาที
พ.ต.อ.พูนศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นปัญหาน่าจะเกิดจากฝ่ายชายเพิ่งเลิกกับภรรยาได้ประมาณ 1 เดือน ก่อนที่ภรรยาจะย้ายไปพักอยู่กับญาติที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และเพิ่งกลับมาอยู่บ้านหลังนี้ประมาณ 3 วัน ซึ่งอาจจะยังหึงหวงกันอยู่ โดยบ้านหลังนี้เป็นชื่อของทั้ง 2 คน ซึ่งภรรยาไม่ได้ทำงานอะไร แต่ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจเกษียณราชการมาหลายปีแล้ว
ด้าน นายอารัญ ชูทอง อายุ 37 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุฝ่ายชายได้ขี่รถมาวนเวียนหน้าบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงฝ่ายชายตะโกนเรียกฝ่ายหญิงที่ประตูหน้าบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงฝ่ายชายเข้าไปในบ้าน ห่างไปประมาณ 10 นาที ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกัน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว
ทางด้าน ร.ต.ท.วรเชษฐ แก้วเพ็ง อายุ 65 ปี อดีตตำรวจ และเป็นเพื่อนสนิทฝ่ายชาย เล่าว่า ผู้ก่อเหตุมีปัญหาครอบครัว เถียงกันทุกวัน เมื่อ 2 วันก่อนได้มาตามตนให้มาเจรจาปัญหาให้จบๆ กันไป เกี่ยวกับเรื่องของภรรยา เรื่องทรัพย์สิน เรื่องของในบ้าน จริงๆ แล้วผู้ก่อเหตุไม่อยากเลิกรากับภรรยา โดยฝ่ายภรรยาเป็นคนจ่ายเงินให้ผู้ก่อเหตุ 3 แสนบาทเพื่อให้เซ็นใบหย่า ซึ่งตอนเช้าก็ยังโทรหาตน เพราะบ่นว่าเครียด แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องจะก่อเหตุ กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว