เรื่องนี้มีที่มาจาก ถาน ตุนซี (Tan Dunci) พยาบาลชื่อดังชาวไต้หวัน ที่ได้ออกมาแบ่งปันเคสอุทาหรณ์ผ่านทางรายการหนึ่งในประเทศ เพื่อย้ำเตือนให้ทุกครัวเรือนว่าการเลือก น้ำมันปรุงอาหาร มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเคยมีกรณีสมาชิก 3 คนในครอบครัวเดียวกัน ประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูก ล้วนเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน อีกทั้งลูกชายยังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงด้วย ซึ่งพบว่าสาเหตุของโรคเกิดจาก กินน้ำมันหมูทุกมื้อ
จากข้อมูลระบุว่า ครอบครัวดังกล่าวมีอาชีพขายหมู พวกเขาไม่เพียงแต่กินหมูทุกวันเท่านั้น แต่ยังใช้น้ำมันหมูปรุงอาหารด้วย เมื่อเวลาผ่านไปสมาชิกใครอบครัวก็ป่วยด้วย โรคหลอดเลือดสมอง หรือ สโตรก (Stroke) ทีละคน ที่มากกว่านั้นคือลูกชายในวัย 10 ขวบ ซึ่งอยู่ช่วงวัยที่ควรจะเต็มไปด้วยพลังเหลือล้น กลับต้องทนทุกข์ทรมานจาก ความดันโลหิตสูง
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า น้ำมันหมู มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง จึงจะเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และการบริโภคที่มากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากน้ำมันปรุงอาหารแต่ละชนิดสามารถทนต่ออุณหภูมิที่แตกต่างกันในการปรุงอาหาร ดังนั้น จึงต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับเมนู ในขณะเดียวกัน การลิ้มรสอาหารจากน้ำมันหมูเป็นครั้งคราวถือว่าไม่เป็นอันตราย แต่ครอบครัวนี้กลับใช้มันเพื่อประกอบอาหารในทุกมื้อ จึงส่งผลให้โรคต่างๆ ถามหาในที่สุด
อย่างไรก็ตาม แทนที่จะมุ่งลดการบริโภคไขมันเท่านั้น แต่การเลือกน้ำมันที่ดีอย่างระมัดระวังมีความสำคัญไม่แพ้กัน ในเรื่องนี้ ถาน ตุนซี จึงกล่าวเตือนว่า เมื่อปรุงอาหารควรพยายามใช้น้ำมันที่มี กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูง ซึ่งหากตามคำแนะนำของ American College of Cardiology ได้แก่ น้ำมันชา น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา ซึ่งล้วนอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว และสามารถช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดีของร่างกายได้
ข้อมูล ctwant