สืบนครบาล ร่วมกันจับกุมนายสุขบุญรอด อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา ตำบลอ่างทอง อำเถอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ได้ที่ บริเวณถนนสาธารณะปากซอยอยู่สุข 28 ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ โดยแจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน เป็นธุระจัดหาโฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้” ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566
พร้อมของกลาง จำนวน 2 รายการ ประกอบด้วย ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่าย เอไอเอส ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว จำนวน 200 ซิม และ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Oppo รุ่น A77s สีดำ จำนวน 1 เครื่อง
สืบเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้สืบทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วโดยบุคคลอื่นพร้อมใช้ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อพูดคุยกันผ่านข้อความแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก โดยผู้ลักลอบจำหน่ายได้ให้เบอร์โทรติดต่อมาด้วย
จนต่อมาจึงได้นัดหมายกันในวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 22.00 น. โดยได้ตกลงซื้อขายซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว จำนวน 200 ซิม ในราคา 5,600 บาท โดยจะจ่ายเป็นเงินสดที่จุดนัดพบ โดยผู้ลักลอบจำหน่ายได้ส่งโลเคชันมาให้ ปรากฏเป็นบริเวณปากซอยอยู่สุข 28 ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
ต่อมาวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 22.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปยัง บริเวณปากซอยอยู่สุข 28 ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ โดยให้สายลับโทรศัพท์ติดต่อยืนยัน ผู้ลักลอบจำหน่ายได้แจ้งว่าตนได้มายืนรออยู่แล้วพร้อมซิมใส่ถุงมาแล้ว
เมื่อไปถึงบริเวณจุดนัดพบดังกล่าวข้างต้น พบนายสุขบุญรอด ผู้ต้องหากำลังถือโทรศัพท์พูดคุยและถือถุงพลาสติกหูหิ้วสีขาวมีสิ่งของอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในถุงพลาสติก ปรากฏพบเป็น ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่าย เอไอเอส จำนวน 200 ซิม
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ซิมทั้งหมดดังกล่าวเป็นซิมที่ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้งานและเป็นของตนเองจริง กำลังจะนำมาให้กับผู้ติดต่อซื้อ โดยก่อนหน้านี้พี่ชายจะเป็นคนขาย ตัวเองนั้นไม่ได้ขาย แต่ต่อมาพี่ชายติดคุก ผู้ต้องหาเลยได้ของมาฟรี ๆ ไม่ได้มีค่าต้นทุน ก็เลยนำมาขายในราคา 30 บาท เนื่องจากไม่มีต้นทุน ผู้ต้องหายังให้การอีกว่า เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่จะขายเป็นซิมเปล่ายังไม่ลงทะเบียน แล้วไปลงทะเบียนที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้วค่อยเอามาขาย จากการตรวจสอบจากชุดจับกุม เบอร์ได้มีการลงทะเบียนหมดแล้ว ใช้ชื่อคนไทย เปิดมาประมาณ 3-4 เดือน
พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนผู้ที่คิดจะทำอาชีพขายบัญชีม้าหรือซิมม้านั้น ได้ไม่คุ้มเสียกับโทษทางอาญา ขอให้คิดให้ดี ซึ่งตามกฎหมายนั้น ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก (คนเปิดบัญชีม้า) บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์ (คนเปิดซิมม้า) สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ