พันตำรวจตรี ปพนเอก บุญอนันต์ สารวัตรปราบปราม สภ.พระประแดง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้าน ว่ามีรถจักรยานยนต์ ซ้อน 2 ผู้ชายขี่และผู้หญิงนั่งซ้อนท้าย โดยรถจักรยานยนต์ได้ติดตั้งสัญญาณไฟฉุกเฉิน แล้วเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินบนถนนสุขสวัสดิ์ โดยชาวบ้านเจอทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้ไปดักรอรถคันดังกล่าวบริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 43 พบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขี่มาตามถนนสุขสวัสดิ์ จากสามแยกพระประแดง มุ่งหน้าพระสมุทรเจดีย์ โดยเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินมาตลอดทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัย จึงทำการหยุดรถเพื่อตรวจสอบ ผู้ขับขี่ชื่อนายสัณฐิติ อายุ 36 ปี และภรรยาซ้อนท้ายมา
จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก 150 สีดำ ที่ด้านหน้ารถติดสติ๊กเกอร์กองทัพเรือ และด้านข้างติดสติ๊กเกอร์ 191 และด้านหน้ากับด้านท้าย ติดสัญญาณไฟฉุกเฉินสีแดง ส่วนหมวกกันน็อกติดไฟกะพริบทั้ง 2 ใบ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ขับขี่และรถจักรยานยนต์ ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.พระประแดง โดยผู้ขับขี่และภรรยา ทำงานอยู่แถวพระราม 3 และไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้สอบถามว่าทำไมต้องเปิดไฟสัญญาณฉุกเฉิน ทราบว่าจะรีบไปทำงาน และรีบกลับบ้านในช่วงเวลาเช้า-เย็น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา ใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน หรือสัญญาณไฟวาบๆโดยไม่ได้รับอนุญาต และปรับเงินจำนวน 1,000 บาท และให้ถอดสัญญาณไฟฉุกเฉินและเอาสติ๊กเกอร์ 191 ออก
ขณะที่ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ กล่าวว่า ตนต้องขอโทษทางเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ที่ใช้เส้นทางบนถนน สาเหตุที่เอาสัญญาณไฟฉุกเฉินมาติดที่รถ เพื่อสะดวกในการใช้เส้นทางช่วงเช้าขณะไปทำงาน และช่วงเย็นขณะกลับบ้านพัก และรวมถึงติดสติ๊กเกอร์ 191 เพื่อเวลาไปเจอกลุ่มวัยรุ่นที่ขี่จักรยานยนต์ประมาทหวาดเสียว เมื่อเห็นตน ก็จะได้หลีกเลี่ยง ไม่มายุ่ง เพราะก่อนหน้านี้ ตนมักมีปัญหากับวัยรุ่นบนท้องถนน เมื่อติดสัญญาณไฟฉุกเฉินและติดสติ๊กเกอร์ ปัญหานั้นก็หายไป ตนจึงได้ติดสัญญาณไฟและติดสติ๊กเกอร์มาตลอด จนวันนี้ถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบ
สอบถามชาวบ้าน เล่าว่า เห็นรถคันดังกล่าวเป็นประจำช่วงเย็นๆ ขับออกจากซอยสุขสวัสดิ์ 39 ไปทางตลาดครุใน และจะเปิดไฟเหมือนไฟฉุกเฉินสีแดงคล้ายๆของไฟตำรวจ บางทีคนไม่รู้ ก็จะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรืออาสามูลนิธิ ไปช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บ หรือมีเหตุฉุกเฉิน ก็จะหลบทางให้ตลอด
ด้าน พันตำรวจตรีปพนเอก บุญอนันต์ สวป. สภ.พระประแดง กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว ถือว่าผิด พ.ร.บ.การจราจรทางบก อยากฝากถึงพี่น้องประชาชน ว่าในตอนนี้มีทั้งหน่วยกู้ภัยและรถพยาบาล ที่ต้องใช้เส้นทางจริงๆ หากมีรถที่นำสัญญาณไฟหรือสัญญาณเสียงไปใช้โดยไม่มีเหตุอันควร อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ในสัญญาณเสียงและสัญญาณไฟ อยากฝากไว้ว่าเคสนี้เป็นเคสตัวอย่าง เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย อย่าไปทำ
แท็กที่เกี่ยวข้อง เปิดไฟฉุกเฉิน ,จยย.ติดไซเรน ,สัญญาณไฟฉุกเฉิน