เปิดสมุดบันทึกเล่มสีแดง รองแบงค์ เขียนสั่งเสีย ก่อนจบชีวิต สะดุดตาที่หน้าสุดท้าย

จากกรณีที่ นายฤชากร ใจสันติ อายุ 43 ปี หรือ ครูแบงค์ รอง ผอ.โรงเรียนสันป่ายางหน่อม อ.เมืองลำพูน และรักษาการ ผอ.โรงเรียนอนุบาลวัดจามเทวี หายไปตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา พร้อมรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนจังหวัดลำพูน จนเข้าสู่วันที่ 14 พบเป็นศพเสียชีวิตในรถเก๋งจอดใต้สะพานต่างระดับบ้านเชียงขาง ถนนวงแหวน รอบ 2 อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ ที่สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นางสุทธีวรรณ อายุ 40 ปี หรือ ครูแทน ภรรยา ของ รองแบงค์ พร้อมเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อขอดู สมุดบันทึกเล่มสีแดง ที่เจ้าหน้าที่พบตกอยู่ ที่เบาะหลังด้านหลังคนขับ ในรถของรองแบงค์

โดย ครูแทน ให้การว่า ยังไม่เชื่อว่าสามีทำร้ายตัวเอง เสียชีวิต เพราะก่อนหน้านั้นได้พาสามีไปพบแพทย์ ที่คลินิกจิตเวชแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ และแพทย์ให้ยามากิน โดยตรวจแล้วไม่พบว่าสามีมีอาการเป็นโรคซึมเศร้า มีเพียงแต่เป็นโรควิตกกังวลเท่านั้น

ส่วน สามีเครียด ด้วยสาเหตุอะไรนั้น ตนไม่ทราบ เพราะสามีไม่เคยเล่าให้ฟัง แต่สามีเล่าให้จิตแพทย์ฟังไปหมดแล้ว วันนี้จึงได้มาขอดูสมุดบันทึก ที่สามี เขียน คำสั่งเสีย ไว้จำนวนหลายหน้า

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจค้นเอา สมุดบันทึกเล่มสีแดง ของ รองแบงค์ ออกมาจากซองหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ ได้แพ็คมาเป็นชุด ซึ่งกลิ่นเหม็นแรงมากเนื่องจากอยู่ใกล้กับศพในรถหลายวัน นำมาให้ครูแทน อ่าน

โดยครูแทน ภรรยา ของรองแบงค์ เปิดอ่านทีละหน้า และยืนยันว่า เป็นลายมือของสามีจริง และ เรื่องเงินและทรัพย์สินและ หลักฐานการทำประกันชีวิต และฌาปนกิจต่างๆนั้นถูกต้องตรงตามที่สามีเขียนไว้ทุกอย่าง

อย่างไรก็ตาม เมื่อครูแทน เปิดมาถึง หน้าสุดท้ายของสมุดเล่มดังกล่าว พบว่ามีข้อความหนึ่ง ที่ตัวหนังสืออ้วนขึ้นมา โดยมีข้อความว่าติดต่อฉุกเฉิน ไม่เหมือนกับตัวหนังสือของสามี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการตั้งข้อสันนิษฐานว่าสมุดหน้าสุดท้ายดังกล่าว ผู้เสียชีวิต น่าจะเขียน ก่อนที่จะหมดลมหายใจ เพราะ เป็นหน้าสุดท้ายของสมุด และสมุดตกอยู่ใกล้ๆกับศพ

ครูแทน กล่าวว่า ที่มาดูสมุดบันทึกของสามีในวันนี้เพื่อต้องการ ทราบว่าสามี ทำร้ายตัวเองจริงหรือไม่ และยังจะขอดูหลักฐานภาพถ่ายสภาพศพของสามี ภายในรถจากเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ อธิบายว่าต้องรอผลสรุป รายงานการชันสูตรพลิกศพของตำรวจพิสูจน์หลักฐานและของแพทย์ภาควิชานิติเวชโรงพยาบาลมหาราชมาประกอบกันอีกครั้ง แต่จากการตรวจสอบรอบๆที่เกิดเหตุแล้ว น่าเชื่อว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะทำร้ายตัวเอง ประกอบกับ จุดที่จอดรถ ไม่มีกล้องวงจรปิด มีเพียงจุดที่ขับผ่านไปเท่านั้น