ร้านเสริมสวยแจง สาวเฟลทำสีผม 6,990 บาท ยันแจ้งราคาลูกค้าครบ เสียใจที่ถูกตำหนิและคืนเงินส่วนค่าย้อมให้แล้ว

(19 มิ.ย.) จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เล่าประสบการณ์การเข้าร้านทำผมสุดเฟล หลังเธอบินมาจากเยอรมนีและได้ไปทำผมที่ร้านทำผมในตลาดแห่งหนึ่ง โดยเธอต้องการทำผมสีเทาเข้ม แต่ผลลัพธ์ที่ได้ทำเธอถึงกับช็อก และถามโซเชียลว่าคุ้มไหม กับราคา 6,990 บาท

โดยเธอเล่าไว้ว่า “วันนี้ฉันไปทำผมที่ร้านทำผมในตลาดแห่งหนึ่ง ร้านนี้มีชื่อเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ 3 ตัว คนที่ทำผมให้ฉันคือผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่คนเดียวในร้าน เธอเป็นคนตัวเล็กๆ มีผมสีทอง การทำผมใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง ตอนที่เธอลงสี มันทำให้หนังศีรษะของฉันแสบมาก หลังจากเสร็จ เธอเรียกเก็บเงินฉันถึง 6,990 บาท ฉันรู้สึกผิดหวังมากที่ต้องจ่ายเงินไปมากขนาดนี้และมันไม่เป็นตามที่ฉันต้องการ เพราะฉันบอกว่าต้องการสีเทาเข้มๆ แต่สีที่ได้คือตามภาพเลย

ทั้งๆ ที่เราก็เพิ่งมาถึงประเทศไทยแค่สองวันเท่านั้น มาจากประเทศเยอรมนี ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทุกคนคิดว่ามันคุ้มค่าหรือเปล่าคะ? ฉันกลับได้รับสิ่งที่ไม่พอใจเลย และไม่คิดว่ามันคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป…ขอนแก่น” ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสงสัยว่าสีเทาตรงไหน แบบนี้น่าจะสีทอง ราคาเกือบ 7 พันแพงไป บ้างก็ว่าไม่แพงหากทำสีเทาจริงๆ แต่นี่ไม่ตรงปก รวมทั้งแนะนำให้ไปคุยกับทางร้านให้แก้ไขให้หรือรับผิดชอบ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ยังร้านเสริมสวยที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่ภายในตลาดชื่อดังในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยได้พบกับ นายโชคชัย หรือ โชค อายุ 38 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยและ น.ส.วรินทร์ลภัส หรือ พลอย อายุ 33 ปี ช่างเสริมสวยประจำร้านฯ ซึ่งวันนี้ได้เปิดร้านให้บริการลูกค้าตามปกติ โดย น.ส.วรินทร์ลภัส เล่าให้ฟังว่า

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. ลูกค้ารายนี้ได้เข้ามาติดต่อทำสีผมที่ร้าน ตนเองจึงได้ให้คำแนะนำพร้อมกับนำตัวอย่างสีผมให้ลูกค้าเลือกว่าต้องการสีแบบไหน ซึ่งลูกค้าได้เลือกโทนบรอนซ์ประกายเทา แต่จากการตรวจดูผมของลูกค้ารายนี้ พบว่า มีพื้นผมค่อนข้างดำ โดยลูกค้าบอกว่าเป็นผมสีดำธรรมชาติ จึงแนะนำไปว่าหากลงสีผมรอบเดียวจะไม่ได้สีตามที่ต้องการ หากอยากได้สีเทามากจะต้องฟอก ประมาณ 3 รอบ จึงจะลงเป็นสีเทาได้ พออธิบายให้ฟังจบ ลูกค้าก็ตกลงที่จะทำสีผมตามขั้นตอน

โดยเริ่มจากการพาลูกค้าไปสระผม ซึ่งในระหว่างที่ทำการสระผม ลูกค้าก็ได้สอบถามตนเองว่า หากอยากได้ผมตรงต้องทำอย่างไรระหว่างดัดกับยืด ตนเองก็อธิบายว่า ถ้าดัดจะได้ผมเป็นลอนหละหยิก แต่หากยืดจะได้ผมตรง ซึ่งลูกค้าก็เลือกวิธีการยืด ตนเองจึงอธิบายเพิ่มเติมว่า ถ้าจะยืดผมก็ต้องยืดผมก่อนแล้วค่อยทำสีผม และต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ลูกค้ารายนี้ก็ตกลงที่จะทำ เมื่อสระผมเสร็จก็พาลูกค้ามาทำการยืดผม ลงสี และทำไฮไลต์ต่อ รวมทั้งตัดผมและบำรุงผม

ซึ่งก่อนที่ตนเองจะทำผมให้กับลูกค้า ลูกค้าก็ได้สอบถามว่า ราคาประมาณ เท่าไหร่ ตนเองก็บอกกับลูกค้าว่า ไม่เกิน 7,000 บาท ซึ่งลูกค้าก็ตกลงที่จะทำ และในระหว่างที่ทำให้ลูกค้าก็ไม่ได้มีท่าทีที่ไม่พอใจ ไม่ได้บ่นว่าแสบศีรษะ บอกเพียงแค่ว่า รีบ มีเพื่อนรออยู่ ตนเองก็เร่งมือให้จนเสร็จเรียบร้อย และจ่ายเงินค่าทำผม

น.ส.วรินทร์ลภัส กล่าวอีกว่า ตนเองยืนยันว่าได้แจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้ารายนี้ทราบชัดเจนว่า ยืดผมแบบเคราติน (ชิชาโด้) ราคา 3,500 บาท ทำสี 1,190 บาท (ราคาโปรโมชัน) ทำไฮไลต์ 500 บาท ตัดซอยผม 300 บาท เคลือบเงานาโน 1,500 บาท รวมเบ็ดเสร็จ 6,990 บาท จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับตนเองรู้สึกเสียใจ เพราะคนที่ยังไม่รู้รายละเอียดทั้งหมดที่ทางร้านกับลูกค้าได้พูดคุยกัน แต่กลับเข้ามาตำหนิในทางไม่ดี ตนเองเป็นช่างเสริมสวยมากว่า 17 ปี ก็อยากให้ลูกค้าทุกคนได้รับบริการที่ดีที่สุดและประทับใจกับการบริการมากที่สุด และตนเองก็จะนำเอาเรื่องนี้มาเป็นบทเรียนและพัฒนาฝีมือตนเองให้ดียิ่งขึ้น

ด้านนายโชคชัย เจ้าของร้านเสริมสวย กล่าวว่า หลังจากที่เกิดประเด็นนี้ขึ้นมาในสื่อโซเชียล ตนเองก็ได้เข้าไปแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษและชี้แจ้งในประเด็นที่ทางร้านผิดพลาด และยินดีที่จะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต่อมาจึงได้ติดต่อลูกค้ารายนี้เข้ามาที่ร้านในวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งทางลูกค้ารายนี้ก็ได้เข้ามาที่ร้านและก็ได้มีการพูดคุยกันด้วยดี ซึ่งทางร้านก็ได้คืนเงินในส่วนของค่าทำสีผม จำนวน 1,190 บาท ให้กับลูกค้า ซึ่งตามจริงแล้วตนเองอยากที่จะคืนเงินทั้งหมดให้กับลูกค้า

แต่ลูกค้ารายนี้ได้มีการไปโพสต์ประจานร้านของตนเองให้ได้รับความเสียหายก่อน ทั้งที่หากไม่พอใจการบริการก็สามารถติดต่อมาที่ร้านโดยตรงได้ ทางร้านก็ยินดีรับผิดชอบ เพราะที่ผ่านมาทางร้านก็แสดงความรับผิดชอบกับลูกค้ามาโดยตลอดในกรณีที่ลูกค้าไม่พอใจ ซึ่งในการพูดคุยลูกค้าก็พอใจในการพูดคุยและการรับผิดชอบของทางร้าน และทางลูกค้าก็ยืนยันว่า จะแก้ไขข้อความที่โพสต์ไปให้มีรายละเอียดชัดเจนขึ้น แต่พอกลับไปลูกค้ารายนี้ก็ยังโพสต์ให้ร้ายทางร้าน ซึ่งในการยอมรับว่า

ขณะนี้ทางร้านได้รับผลกระทบอย่างมาก มีลูกค้าบางรายที่ติดต่อจองคิวไว้ก็เกิดความไม่มั่นใจก็ยกเลิกไม่มาก็มี ซึ่งตนเองอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่า จะฟ้องร้องดำเนินคดีหรือไม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ร้านทำผม ,ย้อมผม ,ดรามา