หลังจากที่ผึ้งหลวงรังนี้ได้เกิดแตกรัง บินลงมารุมต่อยสมาชิกคณะกลองยาวขวัญใจภูเวียงโฉมใหม่ และชาวบ้าน ที่กำลังเตรียมร่วมพิธีแห่นาครอบโบสถ์ในงานบวชของชาวบ้านที่ทางเจ้าภาพจัดขึ้น เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ทำให้สมาชิกวงกลองยาวและชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ต้องวิ่งหนีกันอย่างอลม่าน เนื่องจากถูกฝูงผึ้งนับพันตัวรุมต่อยได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะสมาชิกวงกลองยาว ถูกผึ้งต่อยจนต้องรีบนำตัวส่งรักษาตัวที่ รพ.ภูเวียง กว่า 10 คน โดยมีผู้ที่อาการหนัก 5 คน ที่ต้องนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน เนื่องจากแพ้พิษของผึ้ง และนอกจากการกำจัดรังผึ้งหลวงที่อยู่บนต้นมะขามแล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้ไปทำการกำจัดผึ้งหลวงอีกรังที่อยู่ใต้หลังคาโบสถ์ด้านทิศตะวันออก โดยการใช้ไฟเผาก่อนจะนำรังผึ้งลงมา

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ ที่วัดในอ.ภูเวียง โดยได้พบกับ น.ส.สมฤดี อายุ 36 ปี ผู้จัดการวงกลองยาวขวัญใจภูเวียงโฉมใหม่ และนายสมชาย อายุ 27 ปี หัวหน้าวงกลองยาวขวัญใจภูเวียงโฉมใหม่ รวมทั้งชาวบ้านที่ถูกผึ้งหลังต่อยได้รับบาดเจ็บ

โดยในที่เกิดเหตุ พบว่า บนกิ่งของต้นมะขามที่อยู่สูงขึ้นไปประมาณ 100 เมตร ยังพบผึ้งจำนวนมากจับกลุ่มอยู่บนกิ่งไม้ ขณะที่บริเวณพื้นด้านล่าง มีชิ้นส่วนของหญ้าแห้งที่เจ้าหน้าที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการขับไล่ผึ้ง ส่วนบริเวณหน้าอุโบสถ์ทางด้านทิศตะวันออก พบผึ้งจำนวนหลายพันตัวที่ถูกไฟเผาตาย โดยเจ้าหน้าที่ได้กวาดซากของตัวผึ้งกองรวมกันไว้

น.ส.สมฤดี ผู้จัดการวงกลองยาวขวัญใจภูเวียงโฉมใหม่ เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางคณะวงกลองยาวของตนเอง ได้รับการว่าจ้างจากเจ้าภาพให้มาเล่นดนตรีในพิธีแห่นาครอบโบสถ์ ซึ่งจะมีการแห่นาคในเวลาประมาณ 16.00 น. ตนเองพร้อมกับสมาชิกในวง รวม 15 คน จึงได้นำรถแห่กลองยาวและอุปกรณ์เครื่องเสียงต่าง ๆ มาเตรียมพร้อมรอเล่นที่บริเวณวัด ซึ่งก็รู้ดีว่า บนต้นมะขามยักษ์หน้าโบสถ์มีผึ้งหลวงทำรังอยู่ เพราะการมาเล่นที่วัดครั้งนี้เป็นครั้ง 5 แล้ว และการมาเล่นแต่ละครั้งก็ไม่เคยมีผึ้งลงมารบกวนหรือต่อยคนในวง

แต่แล้วในระหว่างที่ทางวงกำลังทำพิธีจุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และนายสมชาย หัวหน้าวงได้ทำการต่อสายแจ็คเพื่อลองเครื่องเสียง จู่ ๆ ก็มีฝูงผึ้งนับร้อยนับพันตัวบินลงมาเป็นสายรุมต่อยสมาชิกวง รวมทั้งชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้แต่ละคนต้องรีบวิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุกันอย่างทุลักทุเล

โดยจากเหตุการณ์นี้ มีสมาชิกวงได้รับบาดเจ็บกว่า 10 คน มี 5 คนที่อาการหนักต้องนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน เนื่องจากถูกผึ้งต่อยหลายจุดของร่างกาย ทำให้เกิดการแพ้พิษผึ้ง

น.ส.สมฤดี เล่าต่อว่า หลังจากเหตุก็ได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งนำตัวผู้ถูกผึ้งต่อยส่งโรงพยาบาลภูเวียง และช่วยจัดรังผึ้ง แต่ทุกคนก็ยังหวาดกลัวว่า หากยังมีการทำพิธีบวชพระที่วัดนี้อยู่ก็อาจจะเป็นอันตรายได้ จึงได้ไปแจ้งกับพระครูสุวัฒน์กิจจานุกิจ เจ้าคณะตำบลภูเวียง และเจ้าอาวาสวัด ก่อนที่จะตัดสินใจพญานาคและญาติโยมไปทำพิธีบวชที่โบสถ์วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม ซึ่งอยู่ห่างกัน 2 กม. แทน เพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่สมาชิกวงกลองยาวอาการดีขึ้น ก็ได้พากันกลับมาเล่นกลองยาวให้กับคณะเจ้าภาพที่ทำการว่าจ้างจนแล้วเสร็จ ก่อนที่ทุกคนจะกลับไปพักผ่อนและกินยาตามที่หมอสั่ง ซึ่งขณะนี้ทุกคนปลอดภัยดีแล้ว

ด้านนายสมชาย หรือ บิ๊ก หัวหน้าวงกลองยาวขวัญใจภูเวียงโฉมใหม่ เล่าว่า นับตั้งแต่ที่ตั้งวงกลองยาวออกรับงานมา 4-5 ปี และมาเล่นกลองยาวที่วัดแห่งนี้ประมาณ 5 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นกับคณะกลองยาวของตนเองจนต้องวิ่งหนีแตกกระเจิง และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ตนเองถูกผึ้งหลวงต่อยได้รับบาดเจ็บ

ตอนนี้บริเวณที่ถูกต่อยยังบวมแดง ทำให้ต้องกินยาแก้ปวดบวม ซึ่งต่อไปทางวงกลองยาวจะใช้ความระมัดระวังมากกว่านี้ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองคิดว่า การที่ผึ้งแตกรังน่าจะเกิดจากคลื่นเสียงที่ตนเองไปเสียบแจ็กเพื่อจะลองเครื่องเสียง ทำให้ผึ้งแตกรังลงมา