แฉทหารพรานกระทืบเมียแม่ลูกอ่อน เหตุถูกจับได้มีกิ๊ก

เพจดังแฉทหารพรานกระทืบเมียแม่ลูกอ่อน เพราะถูกจับได้มีกิ๊ก เผยโดนมาแล้ว 3 รอบ ครั้งนี้ไม่ทนเจ็บแล้วจำ ขอหย่าขาด

เพจเจ๊ม้อยv-news โพสต์ข้อความระบุว่า อาสาทหารพรานทำร้ายเมีย ทางฝั่งเมียจับได้ว่านอกใจ เพราะฝ่ายชายเป็นอาสาที่ชายแดนใต้ กลับมาก็นานๆครั้งหลังจับได้ ก็เริ่มมีปากเสียงกัน ถึงขั้นลงไม่ลงมือจนเขียวช้ำ โดยมีคู่กรณีสามีภรรยามาโพสต์ตอบโต้ ผู้ใช้ชื่อSameSame #สุดยอดชีวิตจริง และผู้ใช้ชื่อซอฟซอฟ ซึ่งเป็นสามีโพสต์ข้อความตอบกลับยาว แต่ภายหลังลบทิ้งและเขียนสั้นๆว่า เปิดคลิปเต็มสิว่าใครกันที่ยั่วให้ผมสติแตก ไม่ใช่เอาแค่ตอนผมทำคุณ

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบคลิปต้นทางจากผู้ใช้ชื่อ SameSame แชร์ภาพวิดีโอจากเพจเจ้ม้อยและโพสต์คลิปของตัวเองขณะถูกทำร้ายอีกด้วย

วันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ที่บ้านพักในตำบลเกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นางสาวกัณฐิกาหรือ เซม อายุ 28 ปี เปิดเผยว่าเหตุการณ์ที่ถูกซ้อมใช้เท้าเหยียบกระทืบจนช้ำไปทั้งตัวที่ลำตัว แขนขาคอ มีสาเหตุจากไปเห็นกิ๊กของสามีติดแท็กว่า คิดถึงอยากกอด ก็เลยเกิดความโมโห ก็เลยไลฟ์สดเฟซบุ๊กพูดกับเขาว่าทำไมถึงไม่หยุดกันทำไมไม่เลิก

รู้เมื่อต้นเดือนมีนาคม แต่เขาคุยกันตั้งแต่มกราคม ลูกสาวเพิ่งมีอายุได้ 2 เดือน มีปัญหากันมาตลอด เรื่องที่เขาคุยกับคนนั้นคนนี้ ครั้งนี้เป็นการทำร้ายร่างกายครั้งที่ 3 เป็นครั้งที่โดนทำร้ายหนักที่สุด จนจำไม่ได้แล้วว่าโดนอย่างไรบ้าง ซึ่งผ่านมา 7 วัน ยังมีรอยช้ำที่แขนขาสังเกตได้ชัด ตอนที่โดนรู้สึกเจ็บช้ำว่าทำไมเขาถึงเป็นขนาดนี้ ทำไมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาไม่ได้มีลักษณะนิสัยแบบนี้

ถ้าไม่เจ็บครั้งนี้ก็คงไม่ถอยออกมา ไม่เอาแล้วไม่ทนแล้ว จบความสัมพันธ์กันแล้วพอ ตัดสินใจฟ้องหย่าและฟ้องชู้เมื่อเดือนที่ผ่านมา เพราะเมื่อ 19 เมษายน เห็นสามีลงรูปสลิปโอนเงินจากผู้หญิงที่เป็นชู้รักโอนมาให้ 10,000 บา ทและคำพูดขอบคุณค่ะที่รัก ทั้งที่อาทิตย์ก่อนหน้านี้ เรามีเงินอยู่แค่ 200 บาทและแบ่งเงินให้เขาคนละ 100 บาท เจ็บช้ำมาก จึงขอหมายเลขโทรศัพท์และโทรไปหาผู้หญิงจะโทรไปเคลียร์

ซึ่งตนถามว่าพี่ไม่รู้รึว่ามีครอบครัวแล้ว และฝ่ายตรงข้ามตอบกลับมาว่า แล้วสามีเรารักเราไหม จึงตอบไปว่ารักไม่รักไม่รู้ แต่เขารักลูก ทำแบบนี้ทำให้ครอบครัวแตกแยก คนเราเป็นสามีภรรยากัน มีกระทบกระทั่งบ้าง แต่ทำร้ายร่างกายเจ็บทั้งตัวครั้งนี้มันเกินไป ซึ่งไม่ควรใช้ความรุนแรงทำร้ายกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้นางสาวกัณฐิกา มีอาชีพขายหอยแครงลวกและยำไข่แมงดา แต่หลังจากมีลูกด้วยกันจึงหยุดขาย โดยสามี ซึ่งทำงานเป็นทหารพรานอยู่ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่งเสียให้เดือนละ 6,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายค่านมและผ้าอ้อมเด็ก กระทั่งเมื่อเดือนที่ผ่านมาหยุดส่งเงินให้ ทั้งนี้ตนเองได้แจ้งความไว้ที่ สภ.สามร้อยยอด ในข้อหาทำร้ายร่างกายด้วย.