เสียชีวิตแล้ว นายอรรครพงษ์ ขอแสดงความเสียใจ

ในช่วงเวลาประมาณ 06.30 น.ของวันนี้ทาง ร.ต.อ.โสภณ ศรีสมบัติ พนักงานสอบสวนร้อยเวร สภ.ภูซาง จ.พะเยา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านสบบง ม.3 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ว่าเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมาได้มีชาวบ้านรายหนึ่งขี่จักรยานยนต์จะฝ่ากระแสน้ำหลากที่กำลังเชี่ยว บริเวณสวนปลูกอ้อยซึ่งในเวลานั้นเป็นเวลาช่วงประมาณ 16.30 น.โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ห้ามไม่ฟัง ก่อนจะฝืนขี่รถจักรยานยนต์ไปต่อและถูกน้ำป่าพัดจมหายในเวลาต่อมา

โดยได้มีการประสานขอกำลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิลือชาพะเยาชุดประดาน้ำและมูลนิธิลือชาจุดภูซาง ลงพื้นที่เพื่อลงดำค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 2 วันไม่มีวี่แววว่าจะเจอ โดยเมื่อวานตอนเช้าประมาณ 09.00 น.เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถเก็บกู้รถจักรยานยนต์ของผู้สูญหายซึ่งห่างจากถนนเพียง 3 เมตร และทราบชื่อคนขี่ต่อมาคือนายอรรครพงศ์ ต้นวงศ์ อายุ 43 ปี ชาวบ้านทุ่งควบ ม.2 ต.ทุ่งผาสุก อ.เชียงคำ จ.พะเยา

ล่าสุดเช้าวันนี้พบร่างของนายอรรครพงษ์ ลอยขึ้นมาเหนือน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งกู้ภัยจึงรุดลงพื้นที่เพื่อนำร่างอันไร้วิญญาณขึ้นฝั่ง ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้เป็นภรรยาและลูก ๆ

นายสมศักดิ์ นวลแก้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิลือชาจุดภูซางได้เปิดเผยว่า ในช่วง 2 วันก่อน ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนถูกน้ำป่าพัดจมหายไปจากบนถนน โดยช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่น้ำป่ากำลังหลากและไหลแรงด้วย ซึ่งหลังจากลงพื้นที่ก็ได้สอบถามชาวบ้านที่กำลังมาดูน้ำหลากว่าผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์กำลังจะข้ามไปอีกฝั่ง แต่ชาวบ้านหลายคนได้ห้ามไว้

โดยในช่วงนั้นเห็นว่าผู้ตายไม่ยอมฟังคำเตือนและได้ขับไปเรื่อย จนคาดว่าน่าจะเสียหลักล้มจนถูกกระแสน้ำพัดจมหายไปต่อหน้าต่อตาของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ หลังจากนั้นตนเองได้มีการนำทีมลงสำรวจในรอบแรก ก็พบว่าระดับน้ำยังสูงและไหลเชี่ยวจึงได้ประสานไปยังทีมกู้ภัยลือชาพะเยาชุดประดาน้ำให้เข้ามาช่วยให้การดำค้นหา โดยตลอดระยะเวลา 2 วันในการค้นหานั้นระดับน้ำยังไหลเชี่ยวอยู่เรื่อยๆ จนเมื่อวานนี้ช่วงเช้าได้พบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายห่างจากถนนเพียง 3 เมตร และได้ทำการค้นหาต่อจนกระทั่งเวลา 16.00 น.จึงได้ยุติการค้นหา

ทั้งนี้ต่อมาเช้าของวันนี้ตนเองกำลังเดินทางเพื่อนำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่มีน้ำดื่มไปไว้ที่จุดเตรียมค้นหา โดยช่วงนั้นชาวบ้านต่างเห็นบางอย่างทีแรกคล้ายท่อนซุงซึ่งลอยอยู่ในทุ่งป่าอ้อยแต่มองดี ๆ ก็พบว่าเป็นร่างของผู้ตายที่ได้จมน้ำ ทั้งนี้จึงได้แจ้งชุดกู้ภัยทีมของตนให้เข้าพื้นที่ทันที หลังจากนั้นก็ได้ลงไปนำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นจากฝั่งซึ่งสภาพศพนั้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ทั้งนี้ญาติไม่ได้ติดใจการตายแต่อย่างใด

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า วันแรกของการค้นหานั้นเห็นว่าภรรยาของผู้ตายมาเล่าให้ฟังประมาณว่า ในช่วงวันเกิดเหตุภรรยาของผู้ตายได้ห้ามไม่ให้ออกจากบ้าน เพราะมีน้ำท่วมและกระแสแรง แต่ผู้ตายไม่ยอมฟังอีกทั้งยังพูดเหมือนเป็นลางว่า “ออกบ้านครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะไปโผล่ที่ไหน” ซึ่งผู้ตายได้เดินทางออกจากบ้านเพื่อหาไม้มาทำโต๊ะที่บ้านของตนเอง โดยได้เช่าบ้านอยู่ในพื้นที่บ้านสบบง ม.10 ต.สบบง อยู่กันเพียง 3 คน จนสุดท้ายก็มาพบศพในเช้าวันนี้