เพื่อนบ้านจิตป่วนคุกคามไม่เลิก แอบดู แอบฟัง ว่าทำอะไรบ้าง แจ้งความตำรวจแต่คดีไม่คืบหน้า
จากกรณีเพจอยากดัง เดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้โพสต์ภาพและข้อความ เพื่อนบ้าน จิตป่วน คุกคาม แอบดู แอบฟัง แอบถ่าย ชูนิ้วกลาง สนใจสอดส่อง รังควาน ไม่เลิก แกล้งสารพัด กลางค่ำกลางคืนมาแอบตะคุ่มที่พุ่มต้นไม้แอบดู แอบฟังว่าบ้านเราจะคุยอะไรกัน ยังกะผีอำ อุตส่าห์ทำผ้าใบปิด ตีแผงระแนงปิด คิดว่าจบก็ยังไม่จบ อดทนมา 9 ปี แจ้งความแล้วแต่ยังไม่คืบ วันนี้กลัวเหตุการณ์รุนแรง เกิดการสูญเสีย จึงขอความเป็นธรรม
ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณตั๊ก ผู้ร้องเรียน บอกว่า เธอซื้อบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ ตั้งแต่ปี 2558 ร่วม 9 ปีแล้ว ซึ่งเธอซื้อบ้าน ต่อจากเจ้าของเก่าได้ส่วนลด 300,000 บาท ก็ไม่ได้เอะใจ ทำไมได้ส่วนลดเยอะขนาดนี้
จากนั้นเธอ ให้ช่างเข้าไปต่อเติมห้องครัว และตีระแนงบริเวณหน้าบ้าน แต่จู่ๆ ช่างกลับมาบอกว่า “ผมไม่ทำให้แล้วครับ เพื่อนบ้านของพี่มายืนจ้องหน้าผมตลอดเลย” เธอจึงเกิดความไม่สบายใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
จากนั้นปัญหาก็มีมาเรื่อยๆ โดยตอนที่เธอย้ายเข้าไปอยู่ มีสุนัขติดไปเลี้ยงด้วย 2 ตัว ซึ่งสุนัขที่เลี้ยงไว้ ไม่เคยเห่าเสียงดังเลย เนื่องจากเธอเลี้ยงแบบปิด ให้อยู่ในบ้าน ซึ่งเพื่อนบ้านใกล้เคียงจะรู้ดี บางวันเธอจูงสุนัขออกไปเดินเล่น ทุกครั้งเธอจะเตรียม กระดาษ กระบอกน้ำ รวมถึงถุงพลาสติก เผื่อเวลาสุนัขอึ ก็จะสามารถจะเก็บได้ทันที วันดีคืนดีเธอเห็นเพื่อนบ้านนั่งดื่มกาแฟอยู่ เธอก็แค่ทักว่า “นั่งดื่มกาแฟเหรอคะ” กลับถูกเพื่อนบ้านด่ากลับว่า “เลี้ยงสุนัขก็ต้องรับผิดชอบนะ” เธอจึงเถียงไปว่าฉันไม่รับผิดชอบตรงไหน ฉันเตรียมถุง กระดาษ น้ำเรียบร้อย คุณเห็นไหม
คุณตั๊ก บอกอีกว่า แต่หลังๆ หนักขึ้น มีพฤติกรรมชอบ แอบมอง แอบฟัง ดึกๆ ดื่นๆ ยืนด่อมๆ มองๆ อยู่ที่ต้นไม้ข้างบ้าน จนเธอต้องอุปทาน “นึกว่าผีอำ”
จนล่าสุดพอมีปัญหากันมากๆ เพื่อนบ้านเริ่มนำรถมาจอดหน้าบ้าน ให้รถล้ำมาที่หน้าบ้านของเธอ ทำให้เธอนำรถออกจากบ้านไม่ได้ พอคุยกันก็ไม่เคลียร์ ซ้ำยังมีพฤติกรรมหนักขึ้นไปอีก
เมื่อตกลงกันไม่ได้ เธอจึงแจ้งนิติบุคคลให้ช่วยแก้ปัญหา แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ เธอจำเป็นต้องนำผ้าใบมาปิดกั้น เพื่อไม่ต้องเห็น ไม่ต้องพบเจอกัน คิดว่าเรื่องจะจบ แต่สุดท้ายเพื่อนบ้านก็เอาต้นไม้ปลูกล้ำเส้น แล้วก็ดันผ้าใบของบ้านเธอจนโปร่ง ล้ำเข้ามาในบ้าน เวลาไม่พอใจชูนิ้วกลางให้เธอและสามีตลอดเวลา
คุณตั๊ก บอกว่า ที่ผ่านมาเธอและสามีไม่เคยตอบโต้ เคยแจ้งความให้ตำรวจมาช่วยไกล่เกลี่ย แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล หากปล่อยไว้แบบนี้ เธอเกรงว่าจะเกิดการสูญเสีย เพราะเหตุทะเลาะเริ่มรุนแรงขึ้น
ด้านนายเสวก (สงวนนามสกุล) เพื่อนบ้านคู่กรณี บอกว่า สิ่งที่คุณตั๊กร้องเรียนไปไม่เป็นความจริง จุดที่ทำให้ตนรู้สึกไม่ดีและไม่สบายใจ เนื่องจากคู่กรณีเริ่มก่อน ซึ่งมีอยู่เหตุการณ์หนึ่ง เป็นวันอาทิตย์ ตนพักผ่อนอยู่ภายในบ้านกับภรรยา จู่ๆได้ยินเสียงดัง คล้ายคนกำลังต่อเติมบ้าน ตัดต่ออะไรสักอย่าง ตนจึงเดินออกมาดู แต่ก็ไม่พบอะไร ซึ่งปกติแล้ว หมู่บ้านจะมีกฎว่าห้าม
ต่อเติมปรับปรุงก่อสร้างในวันอาทิตย์ ตนจึงทักไปในไลน์กลุ่มของหมู่บ้าน และพูดคุยกับนิติบุคคล ว่ามีคนแจ้งต่อเติมก่อสร้างหรือไม่ นิติบุคคลของหมู่บ้านบอกว่าไม่ได้รับแจ้ง ตนจึงแจ้งกลับไปว่าตอนนี้มีการต่อเติมปรับปรุง ส่งเสียงดังรบกวนผู้พักอาศัย ในนิติฯช่วยเตือนเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวให้หน่อย
จากนั้นนิติบุคคลก็ได้แจ้งเตือนเจ้าของบ้าน พอแจ้งไป เรื่องกลับไม่จบ เพื่อนบ้านได้พิมพ์แชตไลน์ส่งไปในกลุ่มของหมู่บ้านว่า “ใครเป็นคนแจ้ง ให้มาขอโทษ” ซึ่งพิมพ์ข้อความมายาวเหยียดตนเองจำไม่ได้ แต่ข้อความที่พิมพ์มานั้น เป็นถ้อยคำที่ไม่สุภาพ และไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนผิด จากนั้นจึงมีปัญหากันเรื่อยมา
ส่วนที่มีคลิปชูนิ้วกลางให้เพื่อนบ้านนั้น ตนยอมรับว่าชูนิ้วกลางจริง แต่ให้ทุกคนคิดตามความเป็นจริง ถ้ามีคนมาแอบถ่ายวีดีโอคุณ ตอนคุณกลับมาบ้าน หันไปเห็นพอดี คุณจะรู้สึกอย่างไร เพราะเขาก็ละเมิดตนเองเช่นกัน
สุดท้ายอยากบอกว่า ในเมื่อเรื่องราวบานปลายขนาดนี้ ตนไม่ขอคุยกับเพื่อนบ้าน อีกต่อไปให้ต่างคนต่างอยู่
แท็กที่เกี่ยวข้อง เพื่อนบ้าน ,ทะเลาะเพื่อนบ้าน ,เพื่อนบ้านรบกวน