เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังบุกเข้าจับกุม อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรอง ภายในห้องทำงานสำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมของกลางเงิน 150,000 บาท
หลังตกเป็นผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งไม่ว่าการนั้น จะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,
เป็นพนักงานอัยการเรียก รับ หรือ ยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งไม่ว่าการนั้น จะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่หรือใช้ อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่
สำหรับการเข้าจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหาซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรอง แต่กลับมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ จากผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ถูกดำเนินคดี ในคดีลักทรัพย์โฉนดที่ดิน โดยอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นเคลียร์คดีให้กับผู้เสียหายได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการจำนวน 200,000 บาท
แต่ด้วยความที่ผู้เสียหายเกรงว่า หากไม่ยอมทำตามจะทำให้ถูกกลั่นแกล้ง เนื่องจากคดีของผู้เสียหายปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของชั้นอัยการ จึงตัดสินใจยอมจ่ายเงินงวดแรก ให้ก่อนจำนวน 5 หมื่นบาท
จากนั้นจึงรีบนำเรื่องดังกล่าวเข้าปรึกษากับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จนมีการบูรณาการกำลังร่วมกับทางตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมวางแผนเข้าจับกุมในวันนี้
ซึ่งเป็นวันนัดจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 150,000 บาท จนนำมาสู่การเข้าจับกุมตัวได้พร้อมเงินของกลางดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายในห้องทำงาน
ทั้งนี้จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหา ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งรายละเอียดคืบหน้าหลังจากนี้ทางทีมข่าวจะมีการรายงานทราบให้เพิ่มเติมอีกครั้งในภายหลัง