สลด พ่อไลฟ์สดพาลูกวัย 1 ขวบ ขับเก๋งดิ่งแม่น้ำตรัง หวังจบชีวิต

สลด พ่อไลฟ์สดพาลูกวัย 1 ขวบ ขับเก๋งดิ่งแม่น้ำตรัง หวังจบชีวิต ชาวบ้านช่วยขึ้นจากน้ำ ทีมแพทย์ยื้อชีวิต เบื้องต้นกลับมามีชีพจรแต่อาการยังโคมา

เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. วันนี้ 5 พ.ค.67 ร.ต.อ.วิชิต รัตนธรรมโม รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านโคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีพ่อรายหนึ่งไลฟ์สดในเฟสบุ๊กส่วนตัวนำลูกสาวขับรถยนต์เก๋งพุ่งตกแม่น้ำตรัง บริเวณใต้สะพานพระยารัษฎานุประดิษฐ์ หรือสะพานย่านซื่อ ตรงข้ามกับวัดย่านซื่อ พื้นที่หมู่ 3 ต.ย่านซื่อ อ.กันตัง

ที่เกิดเหตุชาวบ้าน ไม่ต่ำกว่า 30 ชีวิต ได้ช่วยกันลากรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวที่จมมิดหลังคาอยู่ติดกับตอม่อสะพาน ความลึกประมาณ 3 เมตร ห่างจากตลิ่งไปประมาณ 6 เมตร ขึ้นมาจากน้ำ พร้อมกับช่วยนำ นาย กวีวัฒน์ หรือ โกแบงค์ อายุ 28 ปี ชาวบ้าน หมู่ 2 ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง ออกมาจากรถและขึ้นมาจากน้ำ ในสภาพที่ไม่รู้สึกตัว ก่อนจะนำตัวของเด็กน้อย เพศหญิง อายุประมาณ 1 ขวบ 7 เดือน ซึ่งทราบว่าเป็นลูกสาวของนายกวีวัฒน์ ขึ้นมาจากน้ำ ในสภาพที่ไม่รู้สึกตัวเช่นกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทีมแพทย์พยาบาล รพ.กันตัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) ได้เร่งปั๊มหัวใจ เพื่อยื้อชีวิตกลับคืนมา พร้อมกับนำตัวส่ง รพ.ตรัง ในเวลาต่อมา

จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและสภาพรถเป็นรถยนต์เก๋ง สภาพกระจกหลังแตก กระจกข้างแตก มีเศษของกระจัดกระจาย และมีขวดนม อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงเด็ก พร้อมกับธงพระจีนอยู่ภายในรถ

จากการสอบถามนายประเสริฐ ใหญ่จริง หรือโกสังข์ อายุ 43 ปี ชาวบ้านในจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ตอนนั้นตนอยู่บ้าน ห่างออกไปไม่มาก แฟนสาวของตนเห็นท้ายรถห้อยอยู่จึงบอกให้ตนมาช่วย จากนั้นจึงมีการดำน้ำลงไปช่วยและลากรถขึ้นมา โดยมีการเอาค้อนทุบกระจกเอาผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับและรัดสายนิรภัยออกมาจากรถ ก่อนจะไปนำลูกสาวซึ่งนั่งอยู่ใต้ที่พักเท้าฝั่งเบาะผู้โดยสารข้างคนขับ ซึ่งตอนนั้นทั้งคู่ไม่รู้สึกตัวแล้ว เพราะกว่าจะมีคนมาช่วยนานก็เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว โดยมีระดับน้ำลึกประมาณ 3 เมตร โดยรถยนต์เก๋งจมมิดไปทั้งคัน แต่โชคดีที่น้ำใสทำให้มองเห็นท้ายรถ โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ มีคนเห็นว่ามาจอดรถอยู่ก่อนแล้ว โดยมีชาวบ้านกว่า 30 คนมาช่วยกัน เบื้องต้นไม่ทราบสาเหตุของการคิดฆ่าตัวตายในครั้งนี้

ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้น ได้มีการสอบถามพี่ชายของนายกวีวัฒน์ ผู้เป็นพ่อ เบื้องต้นมีอาการป่วยเป็นโรคไบโพล่า และโรคซึมเศร้า และได้เลิกรากับแฟนสาวไปได้ประมาณ 1 ปีกว่า ส่วนลูกสาวยังคงอยู่ในความดูแลของพ่อ โดยผู้เป็นพ่อ มักจะมีการโพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะตัดพ้อชีวิต และคิดจะจบชีวิตมาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งช่างเย็นวันนี้ผู้เป็นพ่อ ได้มีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ และผู้เป็นพ่อเดินลงไปดูลงไปในแม่น้ำ

1714963826267

ซึ่งตลอดเวลามีเสียงพูดและดังของลูกสาวมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงผู้เป็นพ่อพูดคุย และหันกล้องมาเป็นกล้องหน้าให้เห็นตัวเอง แต่ไม่สามารถจับใจความได้ เนื่องจากอาจมาจากสัญญาณเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร ก่อนจะมีการถอยรถออกมา และขับรถพุ่งลงแม่น้ำ เมื่อรถลงน้ำปรากฏว่าผู้เป็นพ่อได้ยกมือถือมาไลฟ์สดต่อ ก่อนไลฟ์ดังกล่าวจะจบลงไป โดยมีชาวโลกโซเซียลต่างห้ามปราม และให้กำลังใจ เพื่อไม่ให้กระทำในลักษณะดังกล่าว

และยังพบว่าผู้เป็นพ่อได้มีการกล่าวอ้างและโพสต์หน้าเฟซบุ๊กของชายรายหนึ่ง อายุ 36 ปี เสมือนเป็นสาเหตุให้มีการคิดสั้นในครั้งนี้ ก่อนที่ในเวลาประมาณ 16.35 น. วันเดียวกันเจ้าของเฟสบุ๊กที่ถูกกล่าวอ้างและกล่าวหา ได้มีการโพสต์ใบบันทึกลงประจำวัน ที่ สภ.กันตัง ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวดังกล่าว พร้อมระบุ ได้เดินทางไปโรงพักกับพี่ชายของผู้เป็นพ่อ โดยก่อนหน้าผู้เป็นพ่อได้ทักมาขอความช่วยเหลือเพื่อขอยืมเงินผู้เงิน แต่ไม่ได้ให้ไป จากนั้นผู้เป็นพ่อได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า พร้อมจบชีวิตเอง จึงได้มาลงบันทึกประจำวันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ส่วนอาการของทั้งคู่อัพเดทล่าสุด 09.20 น.( 6 พ.ค.67) เด็กยังโคมา ใช้ท่อช่วยหายใจ ส่วนพ่อก็มีชีพจรกลับมาแต่ยังไม่รู้สึกตัว.